เครื่องบินสกัดกั้น ป้องกันเฉพาะบริเวณ
เครื่องบินสกัดกั้นป้องกันเฉพาะจุด โดยเฉพาะในยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันเป้าหมายเฉพาะจุด พวกมันถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งขึ้นและไต่ระดับให้ได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อเข้าทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดศัตรู
เมื่อเริ่มสงครามโลกครั้งที่สองเครื่องบินขับไล่หนึ่งเครื่องยนต์ส่วนใหญ่นั้นมีเชื้อเพลิงที่น้อยเกินไป พวกมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินสกัดกั้น แต่บทบาทคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลนั้นก็ไม่ได้มีการคาดการเอาไว้เช่นกัน สิ่งนี้ได้พิสูจน์ถึงปัญหาร้ายแรงสำหรับเครื่องบินขับไล่หนึ่งเครื่องยนต์ของเยอรมนีในยุทธการบริเตน ซึ่งสามารถคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดข้ามช่องแคบอังกฤษได้ แต่มีเชื้อเพลิงไม่มากพอในการต่อสู้และบินกลับฐานในฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้เองฝ่ายอังกฤษจึงไม่ค่อยมีปัญหาในการป้องกันนัก
มื่อกองบัญชาการกองบินทิ้งระเบิดของอังกฤษเริ่มทำการทิ้งระเบิดใส่เยอรมนี ภารกิจส่วนใหญ่คือการบินในตอนกลางคืน โดยไร้การคุ้มกัน หรือคุ้มกันโดยเครื่องบินขับไล่กลางคืน เมื่อสงครามดำเนินต่อไปกองบัญชาการกองบินทิ้งระเบิดได้ทำการบินมากขึ้นในตอนกลางวัน สปิตไฟร์ถูกใช้ในบทบาทอื่น เครื่องจักรที่เก่ากว่าถูกนำไปทำหน้าที่ขับไล่ทิ้งระเบิด ทำงานในแนวหน้า ในขณะที่เครื่องจักรที่ใหม่กว่าทำหน้าที่ในการสกัดกั้น ต่อมาเครื่องสปิตไฟร์ก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์และทำหน้าที่สกัดกั้น[บจรวด วี1]และเครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมนี แบบที่ใหม่กว่าอย่างฮอว์คเกอร์ เทมเพสท์และพี-51 มัสแตงได้เข้ามาทำหน้าที่เครื่องบินขับไล่พิสัยไกล
เยอรมนีที่สูญเสียความสามารถทางอากาศของพวกเขาอย่างรวดเร็วเหนือเขตแดนของศัตรูในที่สุดก็หมดเครื่องบินขับไล่พิสัยไกลของพวกเขา พวกเขายังคงใช้บีเอฟ 109 ตลอดสงคราม ถึงแม้ว่ามันจะพัฒนามาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดก็ตาม เยอรมนีขาดทรพยากรอย่างมากในการสร้างเครื่องบินสกัดกั้นและฝ่ายอเมริกาก็โจมตีพวกเขาทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อการทิ้งระเบิดมากขึ้นโดยเฉพาะในปีพ.ศ. 2487 กองทัพอากาศเยอรมันได้พยายามใช้การออกแบบใหม่มากมายอย่างเมสเซอร์สมิต เอ็มอี 163 และแม้กระทั่งเครื่องบินสกัดกั้นพิสัยสั้นอย่างแบกเฮม บีเอ 349 ส่วนใหญ่แล้วพวกมันใช้งานยากและมีผลต่อการทิ้งระเบิดน้อยมาก
ในสงครามเย็นเครื่องบินทิ้งระเบิดถูกคาดว่าจะเข้าโจมตีด้วยความสูงและความเร็วเหนือเสียง สิ่งนี้ทำให้การออกแบบเครื่องบินขับไล่เน้นไปที่การเร่งความเร็วและเพดานบินอย่างการผสมเครื่องยนต์จรวดเข้ากับเครื่องยนต์ไอพ่น แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ใช้งานก็ตาม การพัฒนาของเครื่องยนต์ไอพ่นทำให้จรวดหมดประโยชน์ไป และการออกแบบรุ่นใหม่ก็เป็นเครื่องยนต์ไอพ่นล้วนๆ รวมทั้งมิก-21 อิงลิช อิเลคทริก ไลท์นิ่ง และเอฟ-104 สตาร์ไฟเตอร์ เครื่องบินชนิดนี้ทำให้เครื่องบินชนืดอื่นๆ เริ่มลดบทบาทมารวมกันเป็นเครื่องบินที่มีหลากบทบาทแทนและนั้นทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องบินเฉพาะทางอีกต่อไป
ตัวอย่างของเครื่องบินสกัดกั้นป้องกันเฉพาะบริเวณ
เมสเซอร์สมิต เอ็มอี 163
อิงลิช อิเลคทริก ไลท์นิ่ง
ซ้าบ 35 ดราเคน
ซ้าบ 37 วิกเก้น
มิโคยัน-กูเรวิชค์ มิก-21
เอฟ-104 สตาร์ไฟเตอร์